รายจ่ายเยอะแยะไปหมด ของกินของใช้ราคาก็แพงขึ้น เก็บเงินไม่อยู่แล้วทำยังไงดี!
ปัญหานี้มักเกิดขึ้นได้บ่อยๆในชีวิตประจำวันของพวกเราไม่ว่าจะทำงานหาเงินสายตัวแทบขาดเท่าไหร่ หรือมีเงินเก็บมากแค่ไหน ก็ไหลออกนอกกระเป๋าไปเสียหมดอย่างกับเขื่อนแตก เพราะรายจ่ายที่มากขึ้นจนไม่มีที่สิ้นสุดนี้จึงทำให้ต้องมานั่งทุกข์ใจกุมขมับถอนหายใจออกมาซ้ำๆไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบจนทำให้เกิดความคิดอยากไปกู้หนี้ยืมสินให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย
หยุดความคิดนั้นเดี๋ยวนี้! เพราะทุกปัญหามักมีทางออกเสมอด้วยเทคนิคออมเงินง่ายๆที่จะทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นไปอีกขั้น เหมือนโบกปูนกลบรอยรั่วของกระเป๋าสตางค์
วิธีที่ 1 ได้ไม่ยากถ้ารู้จักออม
“อยากได้จังเลย แต่ตังค์ไม่มีอ่ะ” หลายคนคงคิดในใจหรือชอบพูดคำๆนี้ออกมาบ่อยๆใช่ไหมล่ะ แน่นอน เราเองก็เช่นกัน เราจึงอยากแนะนำให้คุณรู้จัก “ออม” ซึ่งไม่ใช่ชื่อคนแต่อย่างใด แต่เป็นการออมเงินก่อนที่จะใช้ เทคนิคนี้ไม่ยากเพียงแต่ต้องใช้ความอดทนและความพยายามเป็นอย่างมากเพื่อให้ได้สิ่งที่เราต้องการ โดยการออมแต่ละครั้งไม่ว่าคุณจะได้รับเงินค่าขนมตอนไปโรงเรียน หรือไปทำงานมาเท่าไหร่ คุณต้องตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองว่าแต่ละวันคุณจะใช้เท่าไหร่ จะออมเท่าไหร่ ระยะเวลาในการออมกี่เดือนหรือกี่ปี นอกจากจะใช้ความอดทนแล้วยังเป็นการเพิ่มวินัยในการออมเงินกับตัวเองด้วย
วิธีที่ 2 เก็บให้มั่นแบงค์ 50
การเก็บแบงค์ 50 นั้นเหมือนเป็นลาภอันประเสริฐ เพราะเจ้าแบงค์สีฟ้านี้เป็นแบงค์ที่เราพบเจอได้ยากกว่าแบงค์ 20 แบงค์ 100 หรือนานๆจะเจอสักที ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็จับแยกออกจากกระเป๋าสตางค์ไปหยอดกระปุกหมูเก็บไว้ให้อุ่นใจเสียดีกว่า ข้อดีของการเก็บแบงค์ 50 ในทุกๆวันคือจะได้รับรางวัลจากความพยายามอันน่าพึงพอใจ เช่น เก็บครบ 1 เดือน จะได้รับทั้งหมด 50 × 30 = 1,500 บาท เก็บครบ 1 ปี จะได้รับทั้งหมด 50 × 365 = 18,250 บาท ถ้าแล้วเก็บไปเรื่อยๆไม่นับเดือนนับปีล่ะ อาจจะเป็นเศรษฐีแบงค์ 50 แบบไม่รู้ตัวได้เลยนะเออ ส่วนข้อเสียคือต้องพยายามหักห้ามใจไม่ให้ใช้อย่างเด็ดขาด!!! ขีดเส้นใต้สามแสนล้านเส้น ท่องไว้นะ คุณทำได๊ คุณทำได้!
วิธีที่ 3 บัญชีรายรับ – รายจ่ายเตือนสติเอยสติใจมีวินัยในการเงิน
เป็นเทคนิคเตือนใจที่ทำให้รู้ว่าช่วงนี้รายรับของเรามีมากกว่าหรือน้อยกว่ารายจ่าย สภาพคล่องทางการเงินของเราเป็นยังไง ค่าใช้จ่ายในแต่ละวันใช้ไปกับอะไรบ้าง ซึ่งเทคนิคนี้ทำให้ช่วยลดปัญหาเรื่องการใช้จ่ายที่ไม่เพียงพอในอนาคต ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงได้ อีกทั้งยังช่วยทำให้เรามีวินัยกับตัวเองในการออมเงินและบริหารจัดการเรื่องการเงินในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
วิธีที่ 4 จะเลิกเป็นนักชอปจุ๊กจิ๊ก ใจต้องนิ่ง
การชอปปิ้งคือสิ่งคลายเครียดของใครหลายคน แต่ชอปจนตังค์บ๋อแบ๋จากคลายเครียดจะกลายเป็นเครียดหนักกว่าเดิม การที่จะออมเงินได้สำเร็จนั้นใจเราต้องนิ่ง เจอสินค้า Sale 20% 50% ต้องไม่หวั่นไหว มีส่วนลดจัดส่งฟรีก็ห้ามใจอ่อน ถ้าคุณตัดใจจากการชอปปิ้งจุ๊กจิ๊กนี้ได้จะเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น และสามารถออมเงินได้มากขึ้นอีกดวย
วิธีที่ 5 เล่นซ่อนแอบกับเงินออม
ปกติตอนเด็กๆเราจะชอบเล่นซ่อนแอบโป้งแปะเธอเป็นกับเพื่อน แต่การเล่นซ่อนแอบกับเงินออมนี้เป็นการเล่นที่เราต้องแกล้งหาไม่เจอ แม้เราจะรู้ที่ซ่อนแต่เราก็ต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หยอดใส่กระปุกแล้วรีบเก็บให้ลับสายตา ห้ามหยิบออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว เพื่อเป็นการห้ามใจและเซอร์ไพรส์ตัวเองเมื่อถึงเวลาที่เราตั้งเป้าหมายเอาไว้
เพียงเท่านี้สถานะทางการเงินของคุณจากที่ติดลบก็จะเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ใช้ชีวิตได้อย่างแฮปปี้ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะมีเงินเก็บพอไหมสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างไรก็ตามแม้คุณจะมีความพยายามและอดทนกับการออมเงินมาเป็นระยะเวลานาน ก็อย่าลืมที่จะให้รางวัลกับตัวเอง เพื่อเป็นการขอบคุณและเป็นคำชมให้กับคุณคนเก่งกันด้วยนะ และอย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองทั้งภายนอกและภายใน อย่าหักโหมเกินไปจนกลายเป็นความทุกข์ใจ แม้แต่ละวันจะมีทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ร้ายแต่ก็จงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและคุ้มค่าที่สุดในทุกๆวัน ด้วยความปรารถนาดีจากพี่ไดโน
